ReadyPlanet.com
dot dot
dot
แนะนำที่พักและร้านอาหาร
dot
bulletบ้านต้นไม้รีสอร์ท
bulletร้านอาหารไก่ย่างน้องเล็ก1
dot
ต้องการรับข่าวสารจากเรา

dot
dot
โปรแกรมทัวร์
dot
bullet2 วัน 1 คืน :นครนายก
bulletOne Day :นครนายก
dot
กิจกรรมหรรษา ผจญภัย
dot
bulletกิจกรรมเพ้นท์บอล
bulletล่องแก่งเรือยาง
bulletล่องแก่งคายัค
bulletศูนย์ผจญภัยเขาหล่น
bulletกิจกรรมขับรถโกคาร์ท
bulletกิจกรรมขับรถ ATV
dot
เทคนิคการใช้ชีวิตกลางแจ้ง
dot
bulletเดินป่าพึ่งระวังสัตว์ร้าย
bulletเทคนิคปีนผา-โรยตัว
bulletเทคนิคการล่องแก่ง
bulletเทคนิคการเดินป่า
dot
ข้อมูลท่องเที่ยว
dot
bulletททท.สำนักงานนครนายก
bulletศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ
bulletขายของ ล่องแก่ง-ปีนผา
bulletผาจำลอง(เช่าที่นี่)
bulletรับก่อสร้าง-เช่าผาจำลอง




เทคนิคปีนผา-โรยตัว

การปีนหน้าผา และ การโรยตัว สุดยอดของ
การท่องเที่ยวเชิงกีฬา และ เชิงนิเวศ

กิจกรรมการปีนหน้าผาเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพราะถือว่าเป็นการท่องเที่ยวที่เข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ไม่ก่อมลภาวะหรือความเสียหายแก่ สถานที่ใด ๆ ทั้งสิ้น

 นอกจากความเพลิดเพลินแล้ว การปีนหน้าผายังเป็นกีฬาอย่างหนึ่งด้วย เพราะร่างกายได้เคลื่อนไหวและออกแรงใน การพยายามที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุดที่ตั้งใจเอาไว้ แต่การปีนหน้าผาใช่แต่จะใช้กำลังและความคล่องตัวเพียงเท่านั้น ยังรวม ถึงการมีสมาธิและความมั่นคงในการที่จะผ่านชะง่อนหินและด่านต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ นอกจากนั้นการตัดสิน ใจที่รอบคอบ ประสบการณ์และความชำนาญก็มีส่วนสำคัญ เพราะการผิดพลาดบางครั้งอาจจะเกิดอาการบาดเจ็บและเป็น อันตราย

การปีนหน้าผานั้นอาจจะดูคล้ายการปีนเขาก็จริงแต่มีอันตรายน้อยกว่ามาก โดยบริษัทนำเที่ยวจะมีการทำเครื่องหมาย หรือเครื่องยึดทำให้สะดวกและง่ายต่อการปีน มีผู้ควบคุมเชือกหรือบีเลเยอร์ (Belayer)ช่วยดึงและแนะนำการปีนอยู่ที่ พื้นด้านล่าง และจะมีการฝึกสอนให้รู้จักเทคนิค อุปกรณ์และทดลองปีนกับหน้าผาจำลองก่อน

ในระยะแรก ๆ กลุ่มนักปีนหน้าผาส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะ ที่กระบี่ได้รับการกล่าวขานถึงความสวยงามของสถานที่และความซับซ้อนของหน้าผา ในขณะที่คนไทยยังมองว่าการปีน หน้าผาเป็นกิจกรรมที่อันตราย แต่ในปัจจุบันหลังจากที่กระแสการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ชาวไทย ก็มีการแสวงหาการท่องเที่ยวแบบใหม่ ๆ ที่เน้นการผจญภัย และความตื่นเต้น เช่น การล่องแก่ง ดำน้ำ ขี่จักรยาน เสือภูเขา และกิจกรรมการปีนหน้าผา ทำให้ปริมาณผู้สนใจ และบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมในลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้น

   เราลองมาทำความรู้จักกับการปีนหน้าผาในแบบต่าง ๆ กันดีกว่าครับ ที่เห็นอยู่ด้านบนเป็นการปีนหน้าผาแบบ Bouldering ครับ

การปีนหน้าผาแบบ Bouldering คืออะไร

Bouldering คือ การปีนก้อนหิน หรือหน้าผาเตี้ย ๆ (ประมาณไม่เกิน 5 เมตร) เพื่อการฝึกฝน ความสูงที่ไม่มากทำให้เป็นการปีนที่ปลอดภัย สามารถใช้จินตนาการในการคิดค้นท่วงท่าใหม่ ๆ หรือใช้ฝึกทักษะให้ชำนาญก่อนที่จะไปใช้บนหน้าผาสูง
ปัจจุบันนี้ Bouldering ได้วิวัฒนาการมาเป็นกิจกรรมโดยตัวของมันเอง นักปีนหลายท่านเลือกที่จะปีนก้อนหินเตี้ย ๆ แทนหน้าผาสูงเพราะเสน่ห์ของ Bouldering คือ ความยากในความเรียบง่ายนั่นเอง

อุปกรณ์ที่เราใช้ในการปีนแบบ Bouldering ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
1 รองเท้าปีนหน้าผานั่นเองครับ พื้นจะต้องเป็นยางสังเคราะห์ชนิดพิเศษ ช่วยให้สามารถยึดเกาะหน้าผาได้ดี มีความกระชับสูงมาก
2. ถุงชอร์ก เป็นถุงสำหรับใส่ผงแมกนีเซียมคาร์บอเนต มีคุณสมบัติในการดูดความชื้น ช่วยซับเหงื่อทำให้มือแห้ง และช่วยกันลื่น เป็นผงสีขาว ๆ ฝุ่นผงเหล่านี้หากอยู่ในสภาพธรรมชาติ หรือบนหน้าผา เมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งจะหายไปเอง จากลม หรือฝนที่ตกมาชำระล้าง ไม่เป็นอันตรายต่อสภาพทางธรรมชาติ
3. เบาะกันตก เป็นเบาะที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการปีนBouldering เป็นเบาะช่วยซับแรงกระแทกขณะตกลงมา ทำให้ลดการบาดเจ็บจากการปีน สามารถพับเก็บและขนย้ายได้ด้วยบุคคลเพียงคนเดียว

ประสพการณ์เดินป่าโรยตัว  เจี๊ยบ อสท.

สารคดีท่องเที่ยว โรยตัว 5 น้ำตก ไต่ผา ค้นหาหุบเขาดอกไม้

              ใคร ๆ หลายคนคงคิดว่าการโรยตัวเป็นการท่องเที่ยวผจญภัยที่น่ากลัว อันตราย เล่นยาก ต้องใช้ความกล้าหาญ อย่างน้อยก็ต้องน้อง ๆ การปีนเขาขึ้นไปนั่นแหละ แต่อันที่จริง การโรยตัวลงมาไม่ใช่เรื่องยาก ใคร ๆ ก็ทำได้ ขนาดรีสสอร์ตที่ขายการท่องเที่ยวแบบผจญภัยหลายแห่งยังมีหอสูงสำหรับสอนและเล่นโรยตัวตั้งอยู่ ใคร ๆ ก็ไปเล่นได้ แต่เล่นเองไม่ได้ ต้องมีคนสอนและมีพี่เลี้ยงช่วยดูแล และทุกคนที่ไปเล่นก็สามารถจะโรยตัวลงมาจากหอสูงได้จริง ๆ ในเวลาไม่นานนัก เพียงแต่ใครจะท่าสวยกว่าใครเท่านั้นเอง

            และที่น้ำตกธารรัตนา เชิงเขาใหญ่ด้านจังหวัดปราจีนบุรี น้ำตกที่ดูเหมือนจะเล็กจนใครต่อใครผ่านเลยไปหมด ที่นั่น วันนี้มีมืออาชีพกลุ่มหนึ่งมาช่วยทำให้การโรยตัวลงจากภูเขาสูง เรื่องที่ดูจะยากกลับกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรรับทุกคน คนกลุ่มนี้จะนำภานักท่องเที่ยวโรยตัวลงจากยอดเขาสูง เข้าสู่ส่วนสำคัญของธารน้ำตกที่หลงสำรวจอยู่ใจกลางป่าลึก ที่ที่ดอกไม้ป่าพากันผลิบานสะพรั่งสองข้างธารน้ำสวยใส ที่ที่มีนน้ำตกสูงให้โรยตัวลงมาถึง ๔ ชั้น นับรวมความสูงได้หลายร้อยเมตร  จากนั้นจึงนำพาเดินท่องป่าและโรยตัวครั้งสุดท้ายจากยอดน้ำตกลงสู่เรือคายัก และภายเรืออกลับเข้าหาฝั่งที่เขื่อนวังบอนอย่างปลอดภัย

            นับเป็นการท่องเที่ยวผจญภัยรายการเด็ดที่ให้ทั้งความสนุกสนานน่าตื่นเต้น ให้ทั้งทักษะการโรยตัว การเดินป่า การแสวงหา และยังมีความงดงามสุดยอดอีกด้วย

            และมืออาชีพกลุ่มนี้คือสาริกาแอดเวนเจอร์ พอยนท์ บริษัทเอกชนที่ทำการท่องเที่ยวแบบโรยตัว ปีนผา พายเรือ เดินป่า อยู่แล้วเป็นประจำบนเส้นทางสายน้ำตกสาริกา – นางรอง จังหวัดนครนายก นั่นเอง

 

มือใหม่ ล้วนไม่เคย

            ลูกทัวร์ของกลุ่มผมสำหรับรายการเด็ดคราวนี้ก็คือผม หนุ่มเหลือน้อยพุงปลิ้น คุณพริก หนุ่มร่างโย่งผู้สวมรองเท้าแตะเป็นนิสัย คุณทีม สาวน้อย แต่ตัวใหญ่ พนักงานรัฐวิสาหกิจ คุณโอ๋ เลขาฯ สาวเฉียดสวย น้องเปิ้ล สาวน้อยนักศึกษาขาวหมวยเราทั้งห้าคนล้วนไม่เคยมีประวัติการปีนเขา ไต่เขา ไม่เคยแม้แต่จะโรยตัวลงมาจากหอสูง หรือหน้าผาจำลอง คุณทีมเป็นนักลื่นล้มก้นกระแทกพื้น ทำสถิตินัดสุดท้ายที่น้ำตกหมันแดงไป ๑๕ ป้าบ ส่วนคุณโอ๋ เลขาฯ สาวถนัดเรื่องแต่งตัวสวยและงานเลขาฯและน้องเปิ้ลก็ถนัดมากในการเอาแป้งและลิปสติกโปะหน้าทาปากเป็นสีชมพูขาว  “ปิ๊ง” ตลอดทั้งวัน  สรุปแล้วคณะนี้ไม่มีใครสักคนที่มีวี่แววว่าจะเป็นนักปีนหน้าผา  มี่แต่วี่แววว่าจะต้องแขวนต่องแต่งกันบนหน้าผาคนละนาน ๆ อย่างแน่นอน

            ครัวมะนาว  เป็นทั้งรีสอร์ต ร้านอาหารอร่อย และผับดี ๆ ที่มีดนตรีไพเราะ ริมเส้นทางสายน้ำตกสาริกา – นางรอง ที่นี่คือฐานปฏิบัติการแรกและที่พักสำหรับแขกของทีมงานสาริกาแอดเวนเจอร์ฯทีมงานมารอรับเราที่นี่ตั้งแต่เช้า เพื่อพาพวกเราไปหัดโรยตัวที่เขาโหล่นไม่ไกลจากครัวมะนาวเท่าไรนัก เป็นอันดับแรก

          หน้าผาเขาหล่นความสูงประมาณ ๒๐ เมตร เราห้าคนสวมอุปกรณ์ปีนเขาครบ ตั้งแต่ HARNESS อุปกรณ์รับน้ำหนักตัวที่ดูยังไงก็คล้าย ๆ กับกางเกงขาสั้นที่มีแต่ตะเข็บกับขอบกางเกง ไม่มีเนื้อผ้า ผมยุให้สามสาวสวมแต่ HARNESS ไม่ต้องสวมกางเกง ไม่ยักมีใครยอม พอคุณพริกจะยอม กลับไม่มีใครยอมให้คุณพริกสวมแบบนั้น กลัวตาเป็นกุ้งยิง อุปกรณ์อีกอย่างคือ SNAPLINK ที่จะหน้าที่เหมือนเข็มกลัด กลัด HARNESS เอาไว้กับ FIGURE  8 ห่วงโลหะที่หน้าตาคล้ายเลข 8 เจ้า FIGURE 8 ตัวนี้แหละ จะทำหน้าที่โรยเชือกหยุดเชือก ให้เราตกลงช้าเร็วได้ดังใจ อุปกรณ์นออกนั้นก็มีหมวกกันน็อกกันก้อนหินแตกกันก้อนหินแตก เวลานักโรยตัวเผลอเอาหัวไปกระแทก กับถุงมือกันเชือกบาดมือ เท่านั้นก็จบ

                        แล้วเราทั้งห้าคนก็พากันกกระเย้อกระแหย่งกระฉึกกระฉัก หัดโรยตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ที่เขาโหล่นอยู่คนละสองสามรอบประสาคนเพิ่งจะหัดในที่สุดพี่เลี้ยงคงจะทนดูไม่ได้ บอกว่าพวกคุณทุกคนทำได้ดีมากเราไปเจอของจริงกันดีกว่า ว่าแล้วขบวนคนทั้งหมดรวมมยยี่สิบกว่าคนเป็นลูกทัวร์สองคณะที่ตอนหลังมีพยาบาลสาวน้อยจากศิริราช ตั้งกล้องอันเบ้อเริ่มเทิ่มสะพายแล่งอยู่ที่ไหล่ทั้งสองข้าง

            พอยืนหันหลังที่ริมหน้าผาได้มั่น เชือกโรยตัวอยู่ในมือทั้งสองข้างผมก็หงายหลังเอนตัวลงไปจนถึงเกือบจะ ๗๐ องศา ขาขยับยันพื้นไปตามอาการเอียง พอยันได้ที่ เชือกขึงตึง FIGURE 8 ก็ทำหน้าที่ของมันอย่างราบรื่น ผมลองผ่อนเชือกด้วยการกางข้อศอกขวาออกไปตัวตกวูบลงหน่อยหนึ่ง เท้าผมขยับยันหน้าผาตาม ลื่นนิดหนึ่ง แต่ก็พอยันได้ ผมหุบข้อศอกรั้งเชือกมาทางด้านหลัง อาการตกหยุดลง ดูทุกอย่างอยู่ในการควบคุมบังคับของมือทั้งสอง ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีคนข้างล่างช่วย BELAY ป้องกันอาการตกลงไปอีกคน ก็ยังมั่นใจแล้วผมก็ค่อย ๆ กางข้อศอก หุบเข้า ตกลง และหยุด เป็นอาการกระโดดลงไปเบื้องล่างทีละคืบ ๆ ตามท่าทางที่ถูกต้องของการโรยตัวลงไปทีละช่วงสั้น ๆ อย่างมือใหม่ แต่มั่นใจ

            พอลงไปได้สัก ๑๐ เมตร มองไปที่ข้างตัวตอนนี้ ผมตกตะลึงตรึงตัวอยู่กับที่ เพราะที่หน้าผาชัน ๙๐ องศาตรงนั้น ดอกไม้ป่าสีเหลืองบานสะพรั่งขึ้นเป็นช่อไสวสวยงามอยู่ตามหลืบตามซอกหิน น่าเสียดายที่ตอนนี้ในมือผมมีแต่เชือก ไม่มีกล้อง ไม่งั้นผมคงจะได้ภาพดอกไม้สวย ๆ ที่หน้าผามาฝากท่านผู้อ่าน

            พอลงไปได้สักครึ่งทาง ดอกไม้ป่าสีเหลืองยังเห็นอยู่เป็นหย่อม ๆ แต่มีสีชมพูเข้ามาเพิ่มแซมเติมเป็นจุด ๆ กลางทางตรงนั้นเป็นตระพักมีช่วงพอให้หยุดยืนได้สบาย พี่หมู เจ้าของสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ ยืนรอดูลูกทัวร์ทุกคนอยู่ตรงนั้น พี่หมูถามเป็นไงบ้าง ผมตอบสบาย ๆ แต่ชักจะเมื่อยแขน  พี่หมูปล่อยให้ผมลงต่อไป ช่วงข้างล่างหน้าผาหินเว้าลึกเข้าไป ทำให้เท้าไม่มีที่ยัน ต้องปล่อยตัวห้อยตามสบายแล้วผ่อนเชือกลงมา ท่าไม่สวยงามเหมือนเก่า แต่ก็ลงมาได้สะดวกไม่ติดขัด

            มองไปทางขวาตอนนี้จึงเห็นสายน้ำตกมหึมาของธารรัตนาชั้นสองสวรรค์บังหน้าผาอยู่อย่างมิดชิด แบบนี้เองที่ใคร ๆ ถึงไม่รู้ว่ามีน้ำตกใหญ่อยู่ข้างล่างนี่ความสูงของน้ำตกธารรัตนาชั้นสองสวรรค์นี้สัก ๒๐ เมตรเห็นจะได้ ลำธารน้ำที่พุ่งตกลงมาเป็นสายน้ำสีขาวสะอาด สวยงามดังปุยฝ่าย คุณโอ๋ เลขาฯ สาวนั่งแช่น้ำตกร้องเชียร์ผมอยู่ที่ธารน้ำตกตรงนั้น

            แล้วผมก็ลงพื้นล่างได้อย่างปลอดภัย มุมมองจากตรงนั้นมองขึ้นไปที่น้ำตกเป็นซอกหลืบสวยงามมากและไม่เปียก จากที่ตรงนี้ผมจึงค่อยงัดกล้องออกมาถ่ายภาพได้

            แล้วคนอื่น ๆ ก็ค่อยโรยตัวติดตามกันลงมา ทีมงานของสาริกา แอดเวนเจอร์ฯ ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง เสียง ว. แดง หรือ วิทยุรับ-ส่งแบบที่เอกชนมีได้ไม่ต้องขออนุญาต ดังรายงานการลงของแต่ละคนอย่างถี่ยิบ สาวเปิ้ลกับสาวทีมที่น่าเป็นห่วงที่สุด ลงมาพร้อม ๆ กันกับพี่เลี้ยงของสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ อีกคน สอนวิธีการลงกันมาเรื่อย ๆ ตลอดทาง

            คุณพริกเป็นคนที่คณะทำงานของสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ เป็นห่วงมากที่สุด เพราะลงมาด้วยรองเท้าแตะ แต่ก็ลงมาแตะพื้นได้อย่างนุ่มนวล สรุปแล้วลูกทัวร์ทุกคน โดยเฉพาะสาว ๆ สามารถผ่านด่านแรกที่สูงที่สุด ตื่นเต้นที่สุด ลงมาได้ทั้งหมด

            จากที่นี่เราต้องโรยตัวเตี้ย ๆ อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะลงลุยน้ำข้ามแอ่งกว้างของชั้นสองสวรรค์ออกมาพักเหนื่อยพร้อมกับชมน้ำตกชั้นสองสวรรค์อยู่ไกล ๆ พี่หมูบอกกับผมว่า ผ่านด่านนี้มาได้ก็สบายแล้วเพราะด่านแรกนี้แหละที่ยากที่สุด เป็นจุดสุดยอดของการเดินทางสายนี้แล้ว เพราะสูงที่สุด ชันที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดน่าตื่นเต้นที่สุดและถ้าเป็นแบบกลุ่มของคุณ คือทุกคนเป็นมือใหม่สำหรับการโรยตัวทั้งหมด นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่คุณได้เจอหน้าผาจริง ๆ  และเจอครั้งแรกก็ถูกปล่อยเดี่ยวที่ความสูง ๖๐ เมตร ทั้งลื่น ทั้งเปียกแฉะอย่างนี้น่าชมเชยที่คุณผ่านมันมาได้แม้จะไม่งดงามเท่าไหร่ที่หน้าผาข้างหน้านั้นคุณจะลงมาได้อย่างงดงามกว่านี้

            “มันไหมล่ะ” พี่หมูถามปิดท้าย ซึ่งคำตอบของผมก็คือ อื้อหือ มันจริง ๆ โรยตัวครั้งแรกในชีวิต กับหน้าผาดอกไม้สูง ๖๐ เมตร ทั้งฝนตก ทั้งเปียก ทั้งลื่น ลงมาคนเดียว ไม่มีเพื่อน แบกกล้องกับขาตั้งกล้องชุดใหญ่ลงมาด้วย เป็นสุดยอดการเดินทางผจญภัยที่มันสะใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเลยจริง ๆ

 

ด่านที่สอง เพิงพาดอกไม้

ติดตามความมัน ด้วยความงดงาม

            ด่านที่สองเป็นชั้นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่นัก สูงประมาณสัก ๑๕ เมตร ความลาดชันประมาณ ๗๐ องศา ไม่ตัดตรง ๙๐ องศาลงไปเหมือนด่านที่แล้ว  ธารน้ำตกไหลลงด่านหนึ่ง ส่วนนักโรยตัวลงอีกด้านหนึ่ง ข้าง ๆ น้ำตก ด้วยความที่หน้าผานี้เป็นหน้าผากว้าง ทีมงานสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ จึงผูกเชือกโรยตัวให้เราได้สองสาย ลงได้ทีละสองคน

            เจอด่านแรกตื่นเต้นที่สุด สูงที่สุด ชันที่สุดมาแล้ว ด่านนี้น้ำตกไม่สูงเท่าไร ทีมมือใหม่เราจึงสู้ได้สบายมาก อุปสรรค์ที่ต้องเอาชนะให้ได้คือความเปียกแฉะของสายฝนที่ยังคงตกตลอดเวลา ผมเป็นคนแรกที่ลงมาก่อนตามเคย แล้วก็ไม่มีอะไรเสียหน้า สายฝนกลับไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นเพื่อนที่ช่วยให้ความฉ่ำเย็นสบายในการโรยตัวมากกว่า ผมกระโดดถอยหลัง เท้ายันหน้าผารูดลงมาทีละน้อย ๆ ได้อย่างไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่ แต่ปลอดภัย

            พอลงมาแล้วมองขึ้นไปข้างบนเท่านั้น โอ้โฮ ดอกไม้สีชมพูข้างธารน้ำตกมากมาย สวยไปหมด ผมเริ่มลงมือหามุมถ่ายภาพ ถึงตอนนี้ฝนกลับกลายเป็นอุปสรรคใหญ่มาก เพราะไม่มีมุมสวย ๆ ที่หลบฝนได้ ผมเลยต้องถ่ายภาพมันทั้ง ๆ ฝนตกนั่นแหละ ฝนตกตลอดทำให้การถ่ายภาพทำได้ค่อนข้างลำบาก แต่ก็พอกล้อมแกล้มถ่ายไปได้ทั้งเปียก ๆ มีตอนหนึ่งที่กำลังถอดเปลี่ยนเลนส์ ฝนเจ้ากรรมหยดเม็ดเบ้อเริ่มเข้าไปในกล้อง เล่นเอาช่องมองภาพฝ้าไปหมดพอเช็ดฝ้าออกไปสักพักม่านชัตเตอร์กล้องก็ทำงานแค่ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ภาพที่ออกมากลายเป็นภาพแบน ๆ แนวพานอรามาที่ไม่สมบูรณ์แต่ทำไงได้ ก็ต้องถ่ายต่อไป

            แล้วคนอื่น ๆ ก็ผ่านลงมาได้หมด คุณเปิ้ลกับคุณทีมยังเป็นไข่ในหินที่ทางทีมงานสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ ต้องตามดูแลมาตลอด แต่ทั้งหมดก็ผ่านชั้นนี้มาได้อย่างปลอดภัย

            อาหารกลางวันของเราเป็นอาหารกลางวันกลางสายฝน ถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครกลัวเปียกกันแล้ว เพราะเปียกกันมาตั้งแต่แรก เราทั้งหมดนั่งกินข้าวเหนียวหมูหวาน ของฝากสำคัญของจังหวัดนครนายกกันกลางสายฝนอย่างเอร็ดอร่อย

 

ด่านที่สาม น้ำตกใหญ่

ความเมามันที่ทั้งชัน ลื่น และเปียกแฉะ

          จะข้ามไปด่านที่สามเราต้องเดินข้ามทางน้ำไหลแรงริมหน้าผาทีมงานของสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ จึงจัดทำเชือกข้ามน้ำไหล โดยให้คุณเอสหนุ่มจอมลุย เอาปลายเชือกข้ามฟากไปก่อน พอเชือกข้ามสายน้ำเส้นหลักเรียบร้อย ตอนจะข้ามก็ให้พวกเราเอา SNAPLINK ประจำตัวไปเกาะกับเชือกข้ามน้ำไว้ แล้วค่อยลุยข้ามไปเป็น SAFTY ไปในตัวที่ตรงนี้ผมลองปล่อยตัวไปตามน้ำไม่ขืนน้ำ ผลปรากฏว่าตัวลอยไปจนจะตกหน้าผา ต้องตึงเชือกที่ผูกติดกับ SNAPLINK ลากตัวเองกลับมาแทบไม่ทัน

            ด่านที่สาม หรือหน้าผาที่สาม เป็นหน้าผาชันดิ่งเกือบ ๙๐ องศา หักศอกลงไปสูงอีกประมาณ ๒๐ เมตร ที่ทั้งเปียก ทั้งลื่น เพราะเต็มไปด้วยตระไคร่น้ำ น่าจะลื่นที่สุดในบรรดาที่เราผ่านมาทั้งหมด ผมลงหน้าผาเดี่ยวมาก่อนเป็นคนแรกด้วยท่วงท่าสวยงามกว่าทุก ๆ ครั้ง อาจเป็นเพราะชักจะมั่นใจแล้วว่าลงได้แน่ แต่ความลื่นของผนังผาก็ทำให้ผมพลาดก็ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายใด ๆ ขึ้น เชือกโรยตัว FIGURE 8 ทีมงานของสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ ที่ BELAY อยู่ข้างล่างช่วยผมได้มาก ในที่สุดผมก็ลงมาได้อย่างเรียบร้อยในเวลาไม่นานนัก

            พอลงมาผมก็ขึ้นไปใหม่ คราวนี้ไม่ใช่การปืนเขาเล่น ๆ แต่เป็นการปืนขึ้นไปคนเดียวบนหน้าผาเพื่อมองหาจุดตั้งกล้องถ่ายภาพ พอไม่มีใครช่วย การปีนหน้าผาเดี่ยว ๆ พร้อมกับกระเป๋ากล้องและขาตั้งก็เป็นเรื่องไม่ง่าย ผมลื่นไหลหลายครั้ง ขากระแทกกับหินหลายครั้งเล่นเอาเจ็บและเหนื่อยทีเดียว นี่แหละหนา การปีนเขาอย่างไม่มีแบบแผนก็ทำให้ได้เจ็บตัวอย่างนี้แหละ ต่อไปผมน่าจะลองหัดปีนหน้าผาแบบมืออาชีพกับเขาบ้าง แต่ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่า พุงป่อง ๆ ของผมเป็นอุปสรรคหรือเปล่า

            ผมได้มุมสวยด้านข้างของน้ำตกมองออกไป น้ำตกเป็นผืนแผ่นสีขาวสะอาด มีฉากหลังเป็นป่าไม้ใหญ่ ๆ สีเขียวสด ส่วนฉากหน้าตรงนี้สิ มากมายไปด้วยดอกไม้ป่าสีชมพูสวยงาม น่าเสียดายที่กล้องถ่ายภาพผมตอนนี้มันเดี้ยงไปแล้วประมาณ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ รูปที่ได้ออกมาอาจจะไม่สวยงามสมบูรณ์เท่าไหร่ แต่จากมุมที่ผมยืนนี้ก็บอกได้เลยครับว่าสวยงามมาก

            แล้วทีมสาว ๆ ของเราก็ค่อย ๆ ทยอยกันลงมา คราวนี้ดูเหมือนทุกคนจะมั่นใจแล้วว่า ความสูงชันไม่ได้เป็นอุปสรรค อุปกรณ์การโรยตัวและทีมงานของสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ ได้สร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นจนทุกคนลงมาด้านล่างได้อย่างสวยงามราวกับมืออาชีพแม้กระทั่งน้องเปิ้ล ที่ดูจะอ่อนแอที่สุดในคณะ ก็ลงมาได้อย่างมั่นใจ

            คงมีสาวตัวหนัก ๆ อย่างคุณทีมคนเดียวเท่านั้นที่มีปัญหาต้องมีพี่เลี้ยงของสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ ตามลงมาด้วย แต่เมื่อลงมาถึงพื้นก็ยิ้มได้และหัวเราะร่าอย่างมีความสุข ถึงตอนนี้ ทั้งอะดรีนาลินและเอนโดฟีนคงวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายเธอจนคล้ายเมายาบ้าไปแล้ว

 

ด่านสุดท้าย ลุยป่า เล่นน้ำ ฉ่ำชื่นสบาย

ปิดฉากง่าย ๆ โรยตัวลงเรือคายัก

          จากหน้าผาสูง ชาวเราข้ามน้ำไปอีกฟาก คราวนี้เป็นช่วงสุดท้ายแล้วครับ ต้องเดินไกลหน่อย พี่หมูบอกมา ทีมงานสาริกาแอดเวนเจอร์ฯนำเราเดินเลียบไปตามสายน้ำไหล จากหินก้อนหนึ่งไปอีกก้อนหนึ่ง บางตอนน้ำตื้นก็ลุยน้ำไป บางตอนน้ำลึก ไม่มีหินให้เหยียบ ก็ต้องลงไปลอยคอ นึกไม่ออกเหมือนกันว่า ถ้าเราไม่เอาถุงกันน้ำมาด้วยจะเอากล้องถ่ายภาพหลบน้ำไปได้ยังไง เดินมาได้พักเดียวก็มาถึงลานทรายกว้างขวางใต้ร่มครึ้มของต้นไม้ น่านั่งพักผ่อน ทุกคนพากันนั่งพักแช่ลงไปในน้ำแบบไม่ต้องนัดกันเลย

            มันเป็นความสุขใจอย่างน่าประหลาดครับ ที่ได้นั่งลงตรงนี้ทางด้านซ้ายมือของเราเป็นเวิ้งหินที่มีน้ำตกเล็ก ๆ ไหลลงมากลายเป็นแอ่งน้ำไหลแรง พอเราปีนเข้าไปในแอ่งก็เหมือนกับลงไปอยู่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ โอ้โฮ้ อ่างอาบน้ำใหญ่ ๆ น้ำไหลแรง ๆ เป็นจากูซซีแบบนี้ มีเงินสักกี่ล้านถึงจะทำไว้ที่บ้านได้ล่ะเนี่ย

            คราวนี้พวกเราเลยไม่ไปไหน นั่งแช่จากูซซีธรรมชาติกันอยู่ตรงนั้นทั้งหมด บางคนนอนหงายลงไปในธารน้ำ ให้น้ำธรรมชาติบริสุทธิ์ไหลผ่านหน้าตาเนื้อตัวอยู่นาน ๆ แอบฉี่ลงน้ำไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ หลายคนลงไปออกันอยู่ในอ่างน้ำ “ที่นี่ผมตั้งชื่อให้ว่าอ่างชูวิทย์” พี่หมูบอก ชีวิตในท่ามกลางธรรมชาติงาม ๆ ตรงนี้ช่างมีความสุขเสียนี่กระไร

             “ถ้ายกอ่างนี้ไปบ้านได้ ผมคงไม่รอช้า ยกเอาไปแล้ว”  ผมว่า เราอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่อีกนาน แต่ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ในที่สุดเราก็พักกันเดินท่องน้ำออกมาจากที่นั่น ผ่านลานดอกไม้สวย    ลำธารงาม ๆ ไปอีกหลายจุด กระทั่งเวลาผ่านไปอีกสัก ๑๕ นาที เราก็มาถึงจุดสุดท้ายของการเดินทางวันนี้

            หน้าผาของน้ำตกวังบอน ที่ที่ลำธารน้ำที่เราท่องมาตลอดทั้งสายนี้ตกลงสู่พื้นน้ำอันกว้างใหญ่ของ อ่างเก็บน้ำวังบอน ที่นี่ทีมงานของสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ เตรียมการโรยตัวครั้งสุดท้ายลงสู่ธารน้ำสีเขียวสดของอ่างเก็บน้ำ และระหว่างที่กำลังเตรียมตัวกันอยู่นั้นเอง คุณเอก แห่งไดน่าเทรนด์ บริษัทจัดจำหน่ายเรือคายักรายสำคัญรายหนึ่ง ก็พายเรือคายักยี่ห้อโอเชี่ยน คายัก ๖ ลำพายมาหา

            เราจะโรยตัวลงไปที่เรือคายักที่พายมานี่แหละ พี่หมูบอก และผมก็เป็นคนแรกอีกตามเคยที่โรยตัวลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง ลงพอดีกับเรือคายักแบบพายคนเดียวที่คุณเอกชู้ตลูกไกลส่งมาให้พอดี เรือโคลง คุณเอกส่งไม้พายมาให้ ผมรีบพายออกไปวนหามุมถ่ายภาพในอ่างน้ำกว้างทันที

            แล้วทีมงานทั้งหมดก็พากันโรยตัวทยอยลงสู่เรือคายัก ลำละสองคนบ้าง สามคนบ้าง และลำสุดท้ายเป็นเรือยางลำใหญ่ ด้วยความคุ้นเคยกับการโรยตัวแล้วทุกคนจึงลงสู่เรือคายักได้อย่างปลอดภัย

พอจบเสร็จทุกคนเรียบร้อย เรือคายักทั้งหมดก็พากัน บึ้ด จ้ำ บึ้ด ออกจากน้ำตกวังบอน พายแข่งกันมาเป็นระยะทางไกลลิบ ข้ามกลางอ่างเก็บน้ำวังบอนขึ้นสู่ฝั่งได้อย่างปลอดภัย เป็นอันจบสิ้นวันมหาสนุกของเรา ณ ที่นี้เพียงเท่านี้

            ก่อนกลับบ้าน อำลาจากสาริกาแอดเวนเจอร์ฯ ผมลองแย็บถามน้องเปิ้ล สาวน้อยนักศึกษาฝึกงานที่ดูจะอ่อนแอกว่าทุกคนว่า เป็นไง กลัวไหม ครั้งแรกในชีวิตกับหน้าผาน้ำตกสูง ๖๐ เมตรน่ะ คำตอบที่ได้รับก็คือ

            “มันมากค่ะไม่นึกว่าตัวเองจะทำได้ขนาดนี้ถ้ามีอีกคราวหน้าอย่าลืมชวนนะคะ”

            ครับ มาถึงตอนนี้ สิ่งที่ผมกังวลแต่แรกว่า สาว ๆ มือใหม่และดูผอมบางอ่อนแออย่างน้องเปิ้ล สาวมือใหม่ตัวใหญ่เทอะทะอย่างน้องทีม ไอ้หนุ่มรองเท้าแตะอย่างคุณพริก และคนแก่พุงพลุ้ยอย่างผมเอง จะโรยตัวกับหน้าผาสูงจริง ๆ กับเขาได้หรือ ก็ได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจ ทุกคนทำได้ ตอนท้าย ๆ ยิ่งมั่นใจทำได้ดี ผมกับน้องเปิ้ล น้องโอ๋ และคุณพริก ชักติดใจกิจกรรมท่องเที่ยวแบบนี้ ต้องมีคราวหน้าอีกแหง ๆ

            จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่า ใต้เพิงผาของน้ำตกเล็ก ๆ ดูไม่น่าสนใจที่ชื่อธารรัตนาซ้ายมือบนเส้นทางขึ้นเขาใหญ่ด้านจังหวัดปราจีนบุรีที่นั่น ใต้แนวหน้าผาหินจะเป็นหุบเขาน้ำตกงดงาม ที่ในฤดูดอกไม้ ดอกไม้ป่าจะพากันผลิบานอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้มลทินถ้าไม่โรยตัวลงไปก็ไม่มีวันได้พบ ได้เห็น ได้รู้ และได้สัมผัสอย่างแน่นอน







Copyright © 2010 All Rights Reserved.

ห้างหุ้นส่วนจำกัด สาริกา แอดเวนเจอร์ พอยท์ ใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยว 13/02411 , E-mail. sarikatour@hotmail.co.th

Tel. 061-639-4929, 085-374-2496, GPS 14°16'44.5"N 101°16'31.0"E
ศูนย์รวมกิจกรรม Adventure แห่งเดียวในนครนายก ที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.)